review-it: PowerColor HD4770 512MB GDDR5

PowerColor HD4770 512MB GDDR5
[ With result's 2xHD4770CF Vs GTX285 ]
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

พี่น้องครับ นาย...อั๊ยซ์... ขอกราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องแนบหน้าอกอันอบอุ่นอีกครั้งในเวลานี้ หลังจากที่ห่างหายไปเป็นเวลานาน บางคนอาจจะยังจำกันได้อยู่ บางคนก็อาจจะไม่รู้จักนามนี้ก็เป็นได้ ไม่ว่ากันครับ ครั้งนี้ผมกลับมาพร้อมบทเสนอบทหนึ่ง ที่คิดว่ามีความน่าสนใจในตัวมันอยู่ไม่น้อย ซึ่งเป็นเรื่องราวตามถนัดของตัวเองซักนิด ไม่มากก็น้อยหล่ะครับ ก็จะไม่ขอกล่าวให้ยาว สาวให้ยืดมากจนเกินไป เรามาเข้าเรื่องเข้าราวของเราในวันนี้กันเลย น่าจะดีกว่าครับพ่อแม่พี่น้อง !!

ช่วงเวลาที่ตัวผมหายไปซักพักที่ผ่านมานี้ ผมไม่ได้หายไปไหนไกลเลยครับ ยังคงวนเวียนป้วนเปี้ยนไปมาระหว่างบ้านของผม กับห้องทดสอบ หรือที่ใครๆก็เรียกกันว่าอ็อฟฟิศของโอเวอร์คล๊อกโซนนั่นหล่ะครับ ก็ยังคงได้ติดตาม และได้ทราบข่าวคราวเรื่องราว ของความเป็นไปในตลาดฮาร์ดแวร์อยู่อย่างใกล้ชิด ซึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจในช่วงนี้ ผมคงต้องขอยกให้เจ้า ATI Radeon HD4770 ไปแบบเต็มๆครับ เนื่องจากว่า ไปมาทางไหน ก็จะพบเห็นแต่ผู้คนที่กล่าวถามหากับเจ้า HD4770 ทั้งในทางที่ถามหาแหล่งซื้อ หรือว่า จะเป็นการสอบถามถึงความแรงของตัวมันเอง ที่มีบททดสอบออกมาให้ได้เห็นกันแบบเต็มๆไปแล้ว ซึ่งเป็นอะไรที่ช็อคใจคนเล่นคอม ไปตามๆกัน ก็จะไม่ให้ช็อคได้เยี่ยงไรเล่าครับ เล่นเอาซ่ะการ์ดหลายๆรุ่น หลายๆค่าย น้ำตาตกกันไป อีกทั้งยังทำราคาออกมา น่าสะดุ้ง ได้มากมายเยี่ยงนี้อีก เป็นใครก็ต้องช็อคจนน้ำหู น้ำตาไหลกันเป็นแน่แท้ เราก็เลยจัดเอา HD4770 ที่มีอยู่ มาประกบคู่กันสองตัว แล้วไปวัดกับเจ้า GTX285 จากอีกทางค่ายหนึ่ง ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้กันดี ว่าเป็นการ์ดจากค่ายใด แต่ในวันนี้เราจะขอยืนหลักๆไปทาง PowerColor HD4770 512MB GDDR5 กันก่อนน่ะครับ แล้วผลทดสอบระหว่าง 2x HD4770 ปะทะกับเจ้า GTX285 นั้น ก็จะแฝงและมีเปรียบเทียบให้ดูกันภายในเรื่องราวของเราไปด้วย เชิญรับชมครับ

Package : PowerColor HD4770

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เนื่องจากว่าตัวการ์ดในรุ่น Radeon HD4770 นั้นมีขนาดของตัวมันที่เล็ก ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ตัวการ์ดจะไม่ใหญ่ครับ ใช่ครับจึงทำให้ขนาดของกล่องที่ทำการบรรจุมา มีขนาดที่เล็กพอสมควร ซึ่งพอที่จะบรรจุตัวการ์ดลงไปได้อย่างลงตัว พอดิบพอดีลองนึกภาพของกระดาษขนาด A4 ที่ทำการตัดครึ่งแบ่งตรงกลาง นั่นหล่ะครับคือขนาดของกล่องที่บรรจุมา

PowerColor HD4770 มากับการรับประกันจาก Com7 เจ้าเดิมขาประจำ พร้อมระยะเวลา 3 ปี แบบแพลททินั่มเซอร์วิสกันไปตรงนี้ยังคงต้องเดินหน้าไปเครมกันเองตามศูนย์บริการอยู่น่ะครับ ไม่ได้มีบริการเครมถึงบ้านตามที่หลายคนเข้าใจกัน

Hardware Specifications : PowerColor HD4770

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Features / GPU	ASUS ENGTX285 TOP	PowerColor HD4770
Codename	GT200	RV740
Fabrication Process	55 nm	40 nm
Unified Shader	(None)	640
Stream Processors	240	(None)
Memory Type , Memory	GDDR 3 , 1024MB	GDDR 5 , 512MB
Core Speed	670 MHz	750 MHz
Shader Core Speed	1,550 MHz	(None)
Memory Speed	2,600MHz effective	3,200 MHz effective
Memory Bus Width	512bit	128bit
Peak Memory Bandwidth	166.4 GB/s	51.2 GB/s
Interface Support	PCI-Express 2.0	PCI-Express 2.0
DVI Max Support	2560 x 1600	2560 x 1600
D-Sub Max Support	2048 x 1536	2048 x 1536
Multi-GPU Support	Yes , Tri SLI	Yes , CrossFireX
DirectX Version	DirectX 10 Compatibility	DirectX 10.1 compatibility
OverclockZone.com

HD4770 จาก PowerColor ที่ได้มาในวันนี้ เป็นการ์ดที่มีความเร็ว และรายละเอียดของตัวการ์ดแบบเดิมๆ เรียกได้เลยครับ ว่าเป็นการ์ดตัวเดียวกันกับหลายๆยี่ห้อ ไม่ได้มีการปรับแต่งปรุ่งเพิ่มในเรื่องของรายละเอียดทางเทคนิคแต่อย่างใด ความเร็วที่ให้มา ในส่วนของ Core และ Memory Speed ตรงนี้วางอยู่ที่ 750 / 3,200 MHz ไม่น้อยแล้วครับ สำหรับความเร็วของ กราฟฟิกการ์ดในยุคสมัยนี้ แถมยังสามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้อีกตั้งมากมาย ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ล่ะคนด้วย

เรื่องของจำนวน Unified Shader ที่เป็นตัวหลักส่งผลให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลได้อย่างดีนั้น ตัวของ HD4770 เอง มีมาจากโรงงานเหมือนกันทุกๆตัวที่ 640 ต่างจากการ์ดในรุ่นที่ใหญ่กว่า ซึ่งจะมีมากกว่า นั่นก็ส่งผลให้การ์ดที่มี Unified Shader ยิ่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ตัวการ์ดสามารถทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น และส่งผลไปถึงราคาค่าตัวของมันอีกด้วย

และเช่นเดียวกันครับที่ Memory Bus Width ของ 4770 นั้นกองเอาไว้ที่ 128bit ตามประสาของการ์ดรุ่นประหยัดแต่ก็ยังคงสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดีด้วย เม็ดแรม GDDR5 ที่เอาความเร็วเข้าแลกที่ 3,200MHz ซึ่งทั้งสองนี้จะทำให้ตัวการ์ดไม่ต้องมีลายเส้นบน PCB ที่มากมายจนเกินไป เพื่อเป็นการลดต้นทุนได้ดี อีกทางหนึ่งเลยล่ะครับซึ่งถ้ามองกันตามรายละเอียดจริงๆแล้ว HD4770 เสียเปรียบทาง GTX285 อยู่เกือบทุกด้านครับ ก็แน่นอนอยู่แล้วครับการ์ดราคาราวๆ 4,000.- เทียบกับการ์ดราคาหมื่นบาท ย่อมเป็นอะไรที่แตกต่างอย่างชัดเจนเลยทีเดียวครับ

Card Details : PowerColor HD4770

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หนึ่งในสิ่งที่อธิบายได้ยากพอสมควร คือรูปร่างหน้าตาของตัวการ์ด ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใด ยี่ห้อใด แบรนด์ใดก็ตาม เพราะนี่คือสื่งที่มี
ความเหมือนกันในทุกๆยี่ห้อ ด้วยความที่ตัวการ์ด เป็นการ์ด Reference จากทางโรงงานเหมือนกันทั้งหมด ฉะนั้นแล้ว
ความแตกต่างของการ์ดแต่ล่ะตัว มักจะต่างกันตรงที่สติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่บนชุดระบายความร้อนเพียงเท่านั้น ในส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น
ในเรื่องของขนาดของตัวการ์ด ลายเส้นของวรจร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกๆตัวก็เหมือนกันหมดทุกส่วนครับ โดยที่การ์ดในรุ่น
HD4770 ต้องการพื้นที่ในการทำงานทั้งหมดบนเมนบอร์ดเป็นจำนวน สองสล็อตที่แบ็คพาแนล ทั้งนี้เป็นผลมาจากความหนา
ของชุดระบายความร้อนที่จัดวางมาอยู่บนตัวการ์ด ซึ่งถ้ามีการเปลี่ยนแปลง หรือออกแบบชุดความร้อนให้มีขนาดที่บางลง
ก็จะสามารถทำให้พื้นที่การใช้งานของมันลดลงเป็นเพียงหนึ่งสล็อตได้อย่างไม่ยากเย็น แต่นั่นก็หมายความว่า ชุดระบายความร้อน
ที่กินพื้นที่เพียงแค่หนึ่งสล็อต จะต้องมีคุณภาพในการระบายความร้อนที่ดีเพียงพอ ดังนั้นค่าเงินของตัวการ์ด HD4770
หรือต้นทุนในการผลิต ก็ย่อมจะมีราคาที่สูงกว่านี้ตามไปด้วยนั่นเองครับ แต่เพียงเท่านี้การ์ด HD4770 ก็เย็นเพียงพอแล้วครับ
เนื่องจากเทคโนโลยีในการผลิตที่ 40nm อีกทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆจากทาง ATI ที่เพิ่มขนาดของ Die GPU ต่างๆเข้าไปอีก

ด้านหลังของตัวการ์ด ไม่รกรุงรังจนเกินไป แต่ก็ยังมีบางส่วนบางพื้นที่ ที่ยังคงต้องมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์วางอยู่อย่างหนาแน่น
ก็ไม่ใช่ในส่วนไหนไกลตาหรอกครับ เป็นบริเวณด้านหลังของเม็ดแรมทุกๆเม็ดนั่นเอง ที่ยังคงต้องพึ่งพาอาศัยอุปกรณ์เหล่านี้
ในการทำงานอยู่เช่นเคย แต่ในส่วนที่เหลือนั้นก็เป็นพื้นที่โล่งๆของ PCB ที่ไม่ต้องการอุปกรณ์ในการทำงานที่มากมายครับ
และส่วนหนึ่งที่เป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยเลยก็คือ เหล็กรูปกากบาท ที่ทำหน้าที่คล้ายๆกับค้ำโช็คของรถยนต์ เป็นตัวยึดติดกับ
ชุดระบายความร้อนทางด้านหน้าเอาไว้ให้มีความแน่นมากยิ่งขึ้น และยังสามารถช่วยให้หน้าสัมผัสระหว่างฐานของฮีตซิงค์
กับตัวคอร์ของ GPU มีความราบเรียบแนบสนิทได้ดีมากยิ่งขึ้น รวมถึงป้องกันการงอตัวของ PCB บริเวณ GPU อีกด้วย

Orther Details : PowerColor HD4770

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Bridge CrossFireX ของการ์ดในรุ่น Radeon HD4770 จาก ATI ตรงนี้เป็น Bridge แบบสองทาง และที่บอกว่าสองทาง
นั่นก็หมายความว่าการ์ดในรุ่น HD4770 สามารถทำการเชื่อมต่อการทำงานในรูปแบบที่เรียกว่า CrossFireX ได้พร้อมๆกัน
เป็นจำนวนสามตัว ( 3x ) ซึ่งในบางรุ่นจากทาง ATI นั้นจะสามารถทำการเชื่อมต่อได้เพียงแค่สองตัว ( 2x ) หรือเป็น Bridge
CrossFire ในแบบทางเดียว ซึ่งจะมีในรุ่น HD3870x2 , HD4870x2 เป็นต้น และอีกส่วนที่ PowerColor ได้ให้มาพร้อมกับ
HD4770 ตัวนี้ก็คือ ยางพลาสติกสำหรับครอบหน้าคอนแท็ก เพื่อป้องกันฝุ่นผง หรืออากาศที่จะทำให้หน้าคอนแท็กที่เป็นทองแดง
มีการขึ้นเป็นคราบ หรือสนิม ซึ่งมันจะทำให้การเชื่อมต่อในรูปแบบ CrossfireX เกิดปัญหาตามมา ซึ่งเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ
โดยอาจจะทำให้การเชื่อมต่อแบบ Multi Card ไม่เป็นผลสำเร็จ หรืออาจจะไม่สมบูรณ์เต็มร้อย รวมถึงอาจจะเกิดการสั่นไหว
ของภาพที่แสดงออกสู่หน้าจอมอนิเตอร์ได้อีกเช่นกัน

ส่วนเชื่อมต่อสู่ส่วนแสดงผล หรือหน้าจอก็เช่นเดียวกัน ที่มียางพลาสติกป้องกันฝุ่นมาให้ด้วย สำหรับปิดกันเอาไว้ในเวลาที่ไม่ได้ใช้งาน และ HD4770 ก็ยังคงเป็นเช่นเดียวกับการ์ดในรุ่นอื่นทั่วๆไป ที่สามารถแสดงผลได้สูงสุดผ่านพอร์ท DVI ที่ความละเอียดสูงๆอย่าง
2560x1600 ได้อย่างไร้ปัญหา แต่ในบางครั้งที่มีการใช้งานเป็นเวลานานๆ ภาพที่ออกมาจะมีอาการแกว่งๆบ้าง บางคราว
แต่ก็ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะหน้าจอมอนิเตอร์ที่สามารถรันความละเอียดที่ 2560x1600 ได้นั้น มีไม่มากนักหรอกครับ
และปัญหาที่ว่านี้ ก็ไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวการ์ดเพียงอย่างเดียว ยังสามารถเกิดได้จากสาย Cable ที่ไม่ได้คุณภาพอีกเช่นกันครับ

Power Sector : PowerColor HD4770

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Power Sector หรือ ชุดภาคจ่ายไฟของตัวการ์ด HD4770 ที่วางขายตามตลาดทั่วๆไป ถูกตัดเอามอสเฟสออกหนึ่งตัวในหนึ่งชุด
ทั้งในส่วนของไฟเลี้ยง GPU และ Memory รวมไปถึง Capacitor หลายๆจุด ซึ่งได้ทำการเปรียบเทียบด้วยสายตาจาก
ตัวการ์ดในแบบฉบับ Reference แล้ว และนั่นเป็นผลทำให้ความสามารถในการใช้งานถูกลดทอนลงไปด้วยเช่นกัน
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ความสามารถในการใช้งานที่ความเร็วเดิมๆนั้น ไม่ส่งผลให้เห็นความแตกต่างได้ชัดเจน
จะมีผลจริงๆก็ต่อเมื่อทำการ โอเวอร์คล็อกแบบหนักๆ โดยการ์ดที่ถูกตัดเอา Mosfet และ Capacitor ออกไปบางส่วนนั้น
จะไม่สามารถทำการโอเวอร์คล็อกได้ดีเทียบเท่าการ์ดที่มีชุดจ่ายไฟที่เต็มชุดนั่นเองครับ และแอบกระซิบครับ ถ้าใจหาญกันซักนิด
การ์ดตัวนี้ราคาไม่แพงมาก ซื้อมาซักตัวสองตัว แล้วไปเทียบเบอร์หา Mosfet ที่ตรงกัน เป่าลมร้อนลงไปวางในตำแหน่งที่หายไป
วิ่งกระจายครับพี่น้อง อ้อ !! อย่าลืมน่ะครับ ว่าการ์ดตัวนี้ ขอพาวเวอร์ซัพพลายแจ๋วๆ ซัก 450W. ขึ้นไปเพื่อการใช้งานที่ดี
โดยจะเชื่อมต่อปลั๊กไฟเลี้ยงในแบบ PCI-E 6 Pin เพียงแค่หนึ่งหัวเท่านั้นเองครับ ถ้าไม่เสียบ จะไม่สามารถใช้งานได้ครับ

Accessories & Bundled : PowerColor HD4770

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อุปกรณ์ส่วนพ่วงที่ PowerColor ให้มากับ HD4770 ตัวนี้ไม่ได้เยอะแยะจนเกินไปครับ มีเพียงอุปกรณ์ส่วนที่สำคัญๆทั้งนั้นเลย ไม่ว่าจะเป็นสาย S-Video to HDTV Cable , อดัพเตอร์แปลง DVI to HDMI , หัวแปลง DVI to D-Sub 15 Pin และที่จะขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ แผ่น CD Software driver นั่นเองครับท่านผู้ชม แต่ในส่วนของซอฟท์แวร์ ไดร์ฟเวอร์ที่จำเป็นนั้น
เราๆก็ยังคงสามารถเข้าไปดาวน์โหลดตัวใหม่ๆมาใช้กันได้จากเว็บไซต์ผู้ผลิตอย่าง ATI อีกเช่นกันครับ

Test Setup

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

System
Mainboard	INTEL DX58SO
CPU	Intel Corei7 920 @ 3600MHz ( 18x200 )
CPU Cooler	NOCTUA with 1366 mounting + High speed Fan 120mm.
Memory	Kingston HyperX KHX16000D3K3/3GX
VGA	PowerColor HD4770 ASUS EN GTX285 Top
Harddisk	WD 1500 Raptor
Power Supply	Gigabyte Odin 1200W

Software & Setting
OS	Microsoft Windows Vista Ultimate 32bit
VGA Driver	Catalyst Control Center 9.5 ForceWare 181.22
Memory Setting	DDR 1600MHz. [ 8-8-8-24 - 1T ]

Monitor
LCD Monitor	HP LP3065 30" ( Up to 2560 x 1600 Res. )
Cable & Port	Dual Link Cable & Port

งานเข้านิดหน่อยครับ กล้องเกิดปัญหานิดหน่อย เลยไม่สามารถนำเอาบรรยากาศในช่วงการทดสอบมาให้ได้ชมกัน ไม่เป็นไรครับ เรามาดูที่ชุดทดสอบของเรากันเลยดีกว่า ผมได้เลือกเอา Core i7 920 @ 3,600MHz พร้อมกับเมนบอร์ดของ Intel โดยตรง มาใช้ในการทดสอบเช่นเดิมครับ แรมทั้งสามแถวยังคงเป็น Kingston บัส 1600MHz Cas 8-8-8-24 1T วิ่งสบายๆ และพาวเวอร์ซัพพลายขนาด 1200W ถูกยกมาเป็นตัวหลักบนแท่นทดสอบตรงนี้ และที่จะขาดไม่ได้เลย ก็จะเป็นในส่วนของ Windows Vista Ultimate 32Bit และไดร์ฟเวอร์กราฟฟิกการ์ด CCC 9.5 นั่นเองครับ

อย่างที่ได้กล่าวไปในตอนต้นแล้วว่า วันนี้จะมีการเปรียบเทียบระหว่าง 2x HD4770 กับ GTX285 เพื่อให้ได้เห็นแบบพอประมาณ
ว่าสิ่งไหนน่าสนใจกว่า และสิ่งไหนคือความคุ้มค่าที่น่าลอง โดยเราจะทำการตั้งค่าแบบปกติ ไม่มีการปรับแต่งใดๆทั้งสิ้น รวมถึงการตั้งค่าของการทดสอบ ก็จะเป็นในแบบเดียวกัน ไม่มีการเอื้อให้ใครฝ่ายใดฝ่ายเดียว ขอให้เชื่อใจ และรับชมกัน

Capture all software Detials

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Test Setting

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

3DMark by FutureMark - Default Setting all BenchMark
Farcry2 - Very High / 4AA-8AF
Crysis - Gamer DX10 / No AA-AF

BenchMark Result

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

: 3DMark by FutureMark :

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ในส่วนของโปรแกรมเบ๊นช์มาร์คจากค่าย FutureMark ทั้งสี่ตัวที่เราได้ทำการทดลองดู ได้ผลออกมาค่อนข้างชัดเจนพอสมควร
ว่า 2x HD4770 สามารถทำได้ดีไม่น้อยไปกว่าทาง GTX285 และผลหลายๆตัวนั้นแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า 2x HD4770
สามารถวิ่งแซงความแรงของ GTX285 ได้อย่างสบายๆ จนมาถึงเจ้าตัว 3DMark Vantage ที่เป็นทางถนัดของค่าย Nvidia
ก็ทำให้เจ้า GTX285 ที่ทำการเปิดโหมดของ Physics นั้นมีคะแนนที่ดูดีกว่า แต่ก็ถือว่า ไม่ทิ้งทาง 2x HD4770 จนเกินไป
แต่ผมชอบในการมองคะแนนที่ตัว 3DMark03 ซ่ะมากครับ เพราะเวลาคะแนนออกมาคราวไหน ก็ทำให้เห็นได้ถึงความแรง
ของการ์ดที่ทำการเชื่อมต่อแบบ Multi ทุกๆครั้งไป ซึ่งครั้งนี้ก็เช่นกันที่ 2x HD4770 สามารถกระโดดจากเดิมที่ 44,546 คะแนน
ไปเป็นที่ 75,757 คะแนนได้อย่างสบายๆ โดยที่ตัวการ์ดทั้งสองยังคงใช้ความเร็วที่เดิมๆของตัวการ์ดอยู่ทั้งคู่ คงไม่ต้องกล่าว
กันให้มากไปน่ะครับว่า ถ้าการ์ดที่สามารถทำการโอเวอร์คล็อกได้ดีอย่าง HD4770 ทำการเพิ่มความเร็วกันแบบสุดๆ และถ้ายัง
มีฟีเจอร์ในเรื่องของ Physics แล้วล่ะก็ เบ๊นช์มาร์คต่างๆเหล่านี้ก็ถือว่าสบายๆ ขำๆอย่างแน่นอนครับ

BenchMark Result

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

: Farcry2 :

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

: Crysis Warhead :

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

: Conclusion :

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับบททดสอบของเราในวันนี้ ที่ได้นำเอา HD4770 ตัวร้อนแรงแห่งยุค มาประกบความแรงกับเจ้า GTX285 ซึ่งเป็นตัว Top ของ Asus ด้วย ซึ่งถ้ามองกันอย่างละเอียดแล้ว ผมมองว่าแต่ล่ะตัวก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป โดยที่ไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนไปซ่ะทีเดียว ว่าใครเหนือกว่าใคร ตรงนี้ต้องขอบอกตามตรงเลยครับ ว่าที่เราทำในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการเข้าข้างใคร และไม่ได้เป็นการจะทำให้ใครได้แตกแยกกัน เป็เพียงแต่การนำเสนอสิ่งต่างๆให้ได้เห็นกันอย่างตรงไปตรงมา เพื่อเป็นข้อเสนอแนะสำหรับทุกๆคนที่กำลังต้องการหากราฟฟิกการ์ดที่เหมาะสมกับตัวเองมาใช้ซักตัว เพียงเท่านั้นครับ

ผมต้องขอกราบเรียนแบบนี้ครับว่า ( ขอหยิบยืมคำของท่านนายก มาใช้ซักหน่อยน่ะครับ ) HD4770 เป็นการ์ดในระดับล่าง ค่อนๆไปถึงระดับกลาง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ราคาของ HD4770 สามารถจัดให้อยู่ในกราฟฟิกการ์ดระดับล่างได้อย่างสบาย แต่ด้วยความสามารถ และประสิทธิภาพของตัวมันเองแล้ว ก็เลยทำให้ HD4770 สามารถขึ้นมาเทียบเท่าการ์ดในระดับกลางได้หลายๆตัวที่มีความสามารถเท่าเทียมกัน และด้วยความที่ HD4770 เป็นการ์ดระดับล่าง จึงทำให้ตัวของมันเองมีเสป็คที่ไม่สูงมากไป อีกทั้งยังมีราคาที่เปิดตัวออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ถูกมาก เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้มา จึงส่งผลให้หลายๆคนมองว่ามันแรงคุ้มกับราคา ได้อย่างไร้ข้อสงสัย ต่างจากการ์ดหลายๆรุ่นที่ต้องควักกระเป๋าเป็นเงินจำนวนมาก เพื่อให้ได้มาซึ่งความสามารถ และประสิทธิภาพจากตัวการ์ดที่แท้จริง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า การ์ดที่มีราคาสูงจะมีความแรงเสมอไป และบททดสอบที่ได้ออกมาในวันนี้ ก็ไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าการ์ดตัวไหนแรงกว่ากัน เพียงแต่เป็นการเสนอแนะให้ได้ทราบกัน ว่าเงินที่คุณมีในกระเป๋า เราจะทำอย่างไรกับมันดี เพื่อความคุ้มค่าที่มากที่สุด และเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด

ถึงอย่างไรก็ตามครับ แม้ว่า HD4770 จะสามารถปั่นคะแนนในส่วนของโปรแกรม 3Dmark ต่างๆได้อย่างสนุกก็จริง แต่เมื่อมาถึงเรื่องสำคัญอย่างการเล่นเกมส์ หรือไม่ว่าจะเป็นการใช้งานจริงก็แล้วแต่ HD4770 ยังคงทำได้ไม่ยอดเยี่ยมซักเท่าไหร่ครับ เพราะอย่างที่ผมได้บอกไปแล้ว ว่าการ์ดตัวนี้เป็นการ์ดในระดับล่างที่มีเสป็คไม่สูงมากนัก เมื่อนำมาใช้งาน หรือเล่นเกมส์ที่ต้องการเสป็ค จากตัวการ์ดในระดับหนึ่ง ก็จะทำให้ HD4770 นั้นไม่สามารถดึงเอาเฟรมเรทให้อยู่ในระดับที่คนเราเล่นเกมส์กันไหลลื่นได้เท่าที่ควร แต่ถ้ามีการปรับแต่งเพิ่มความเร็วให้กับมันซักหน่อย หรือว่าลดการตั้งค่าความสวยงามของภาพในเกมส์ให้เหมาะสมกับตัวการ์ดซักนิด ก็จะสามารถทำให้ HD4770 ดูมีคุณค่าขึ้นมาได้อย่างมากมายในราคาราวๆ 4,000.- บาทเท่านั้น ครับ

ที่เห็นว่าไม่มีผลการทดสอบในเรื่องของความร้อน และอัตราสิ้นเปลืองพลังงานในครั้งนี้ ก็เนื่องจากว่าเราได้มีผลทดสอบของ การ์ดทั้งสองก่อนหน้านี้อย่างมากมาย ก็สามารถย้อนกลับไปค้นหาข้อมูลเพื่อรับชมกันได้ครับ และการตัดสินใจของทุกคน ก็ย่อมเป็นสิทธิ และความต้องการของแต่ล่ะคนต่างกันออกไป ย่อมไม่สามารถบังคับข่มขืนฝืนใจของใครได้ เลือกกันให้ดี คิดกันให้คล่องการตัดสินใจ เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ออกไปจากกระเป๋า ขอให้เหมาะสมกับตัวเราที่สุด ไม่จำเป็นต้องตามกระแส ไม่จำเป็นต้องมองคนอื่นครับ เราใช้งานแค่ไหนเราทราบดีแก่ใจเราครับทุกคน และการใช้งานจะมีความสุข เมื่อทุกๆอย่างอยู่ในความพอดีครับ สวัสดีครับพี่น้อง